ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

OR เผยผลการดำเนินงานปี 2567 กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ยังคงแข็งแกร่ง มุ่งเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ เรียกความเชื่อมั่นและสร้างการเติบโตให้ OR


 

OR (โออาร์) เผยผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 5.9% จากปี 2566 โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงและราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ Lifestyle และ Global ยังคงแข็งแกร่ง มีรายได้เพิ่มขึ้น 8.2% และ 10.9% ตามลำดับ อีกทั้งภาพรวมค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิปรับลดลงกว่า 11% เร่งเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ผ่าน 3 พันธกิจหลัก สร้างความเชื่อมั่นและการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwerZbtD46IjZ5-aIVdxjnti_Ym8PDv6m0LlDyTRfEN6Pz3nPpSgByJz05MqU4hLkb0AsKeyiaKiMNR-RGRSnFguRBnVeMBCKbMb6D8_180zIsqdjupbKEBXE6KnjtT9zZVRfeq3lyXy2LXuo0V_7ZBIjzwrdvsRzJXaEdWzpgX0rPsuVIKT4gLnQn1Gvg/s16000/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%20CEO%20OR_0.jpg

หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 45,783 ล้านบาท หรือลดลง 5.9% จากปี 2566 โดยหลักจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงและราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยรายได้ขายลดลง 7.4% สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น 8.2% ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม

โดยในปี 2567 Café Amazon มียอดขายรวมกว่า 400 ล้านแก้ว ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก และมี EBITDA จำนวน 17,666 ล้านบาท อ่อนตัวจากกลุ่มธุรกิจ Mobility แต่ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังแข็งแกร่งโดยปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มธุรกิจ Global ก็ปรับเพิ่มขึ้นโดยหลักจากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHgP-G3cpbVxySTAg54vob8RqW6yxXhX4uv_iQJQZYMDrZ1TS5gzttkfXno_PneoMVpGPq_S32ryHDzl0uZiO_4-b5jTBmjBnYkMTlpMNK6CvYKHu-efrATA9Xh871mWCWM6HPvVD5k6V-8hMMZ5g1BIlDCy981BfZ7quUw2qtgi3AVDlNwRjd4QaYuU9h/s16000/image015.jpg

ภาพรวมค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิปกติยังปรับลดลง 11.7% โดยหลักจากค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายพิเศษเนื่องจากใช้กลยุทธ์การทบทวน Portfolio ยุติธุรกิจที่ไม่ทำกำไร และให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ทำกำไรและมีโอกาสเติบโตในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของ OR ในระยะยาว สำหรับกำไรสุทธิ มีจำนวน 7,650 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 3,444 ล้านบาท หรือลดลง 31.0% สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 ปรับดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้ขายและบริการ 185,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,773 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นจากทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มี EBITDA จำนวน 4,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,124 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4,608 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100%

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvpRSjLoKqEmvW1AOwxpit8BauwxFuZ2Kido_VgZ1gumCtEf2vF16Q7YLNC81g5N9sgw2-QKW8-Uo3I2vAFhtPRsqbBn5BEdIYVe7OkV98ckP_Y5mkiAeqpa6z9fyY-eJpkYfuwaY5kfMY7WqzenoD6Hr7bAUfUtnm4_4zmYGNhjV4P3gExdHhqFmHTylf/s16000/121A2232_0.jpg

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา OR ได้รับการประเมินผลหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่ระดับสูงสุด “AAA” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงยังคว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจบนรากฐานของความยั่งยืนและได้รับการยอมรับในระดับสากล

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuwe6UIcm4XPbLfr7E-JFE5EUZtiRXBv0BREEUiXdN7dHFe3sZT4soULRGnfEgjIAmTD_eOtdL4BhsvrDaiU78e1JJx1_qdP9WBhQSp0MrmdA7lQ0dGS9-cuhzl4vtViRJ7CH9F8cPYxYw6A8kuITIj4KJoY_T9cyPKhyphenhyphenyxUmAUzJmLuumHeY3r-tRFIex/s16000/image012.jpg

สำหรับปี 2568 คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยหลักจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุน โดยคาดว่าในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใกล้เคียงระดับปกติ โดยมุ่งเน้นการใช้ Digitalization & Innovation เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าน้ำมันในประเทศไทยและดึง Market Share กลับมา มุ่งเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคและเป็นพาร์ทเนอร์ในการเดินทางสำหรับทุกคน (Mobility Partner) ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมในการขยายจากธุรกิจน้ำมันสู่ธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (New Energy-Based) เพื่อรองรับแนวโน้มพลังงานสะอาดในอนาคต เช่น การสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) รวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นในอนาคต 

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQcxhCIM-xxynmAc0BWMw_Sa_mBwCpTJVKh6tvVsfGacLRJF3EJDD-3Svojl7Kg4PfcNa4IHiyNitGHKxLShKzyExLO6Mma3JKYwjzBsiOwm2iFDaB1lyixfAO8f28tz-YtX3b8yLRhPPPmoW6SWeFx8cDyOsjWGmjsLxMwbNWMubUly_S0zJNff59rgIF/s16000/121A4542_0.jpg

สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จะยังคงรักษาความแข็งแกร่งของ Café Amazon ตลอด Value Chain รวมทั้งหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) และธุรกิจไลฟ์สไตล์อื่นๆ เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นแม่เหล็ก (Magnet) ในการดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจหลักของ OR รวมถึงการศึกษาธุรกิจด้าน Health & Wellness ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกรูปแบบและยกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่ง 

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEinh5kyxGM-_mV3Lc98BEyRSdzNlNAMSNqUZsBVGuvuhQPtjEi-SF3PA8WwF72wF2xlHRc01vSnTBs2t3BH7fFmA7F85ycR9JJZ6sWBiq2alUAgt-YntfX4hKSn1xvoWpmR3Vec9DRajVMRImKs9Dn_l67jaGH5OycIOnKaLRc83dOsOkei33sC5kPO2CDy/s16000/image013.jpg

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global ยังคงสานต่อนโยบายในการขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชาในฐานะที่เป็น Second Home Base เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงมี Demand สำหรับสินค้าและบริการของ OR รวมถึงแสวงหาโอกาสการเติบโตไปยังประเทศใหม่ โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุนต่อยอดในธุรกิจปัจจุบันมุ่งหวังสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

โดยในปี 2568 จะใช้งบลงทุนรวม 18,886.9 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mobility จำนวน 7,656.7 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จำนวน 7,280.4 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Global จำนวน 2,771.8 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business อีกจำนวน 1,178.0 ล้านบาท หม่อมหลวงปีกทอง กล่าวเสริมในตอนท้าย

ขับเคลื่อนโดย Blogger.