ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

รีวิว AION ES ว่าที่รถแท็กซี่รุ่นใหม่ ขุมพลังไฟฟ้า 136 แรงม้า ขับง่าย นั่งสบาย แรงมาดี ใช้ในเมืองเหมาะ!


 

EVme Plus (อีวี มี พลัส) ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในไทย นับตั้งแต่กระโดดลงมาในไลน์ธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า กับการเปิดตัว "AION ES" (ไอออน อีเอส) รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ บุคคลทั่วไป และผู้ขับแท็กซี่ โดยเฉพาะ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีกับยอดสั่งซื้อกว่า 850 คันแล้ว

โดยล่าสุด EVme ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจอยากทดลองขับ AION ES สามารถมาทดลองขับกันได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21-25 ธันวาคม 2566 ที่ Bravo BKK (หรือ Show DC เก่า)  



"AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ" เป็นรถ EV ซีดาน 4 ประตู 5 ที่นั่ง โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว แบบพวงมาลัยขวา เพื่อนำมาจำหน่ายในไทย และปรับโมเดลสำหรับแท็กซี่โดยเฉพาะ

สำหรับรูปโฉมภายนอกของ AION ES เป็นการนำดีไซน์ระหว่าง AION Model S และ AION Model S Plus มาปรับดีไซน์ใหม่ยกคัน ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้ากลุ่มแท็กซี่มากที่สุด ด้วยรูปโฉมในสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งในอนาคต AION มีแผนนำรถยนต์รุ่นดังกล่าวมาผลิตในไทยอีกด้วย 

https://www.techmoveon.com/wp-content/uploads/2023/12/WcCdhquA.jpg

มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light ส่วนด้านข้างมาพร้อมล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว คู่กับยางขนาด 215/55R17 ที่ออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ รวมไปถึงระบบเบรก ประตูบานหน้า-หลัง กว้างขวาง เข้าออกได้สะดวกสำหรับคนทุกวัย

ส่วนด้านท้าย มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Laser Blade พร้อมฝากระโปรงท้ายที่มีขนาดใหญ่ สามารถจุกระเป๋าเดินทาง หรือสัมภาระได้มากพอสมควร

มิติตัวรถยาว 4,810 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,545 มม. และระยะฐานล้อ 2,750 มม.

https://www.techmoveon.com/wp-content/uploads/2023/12/iDXQbblA.jpg

ส่วนห้องโดยสารภายในกว้างขวาง นั่งได้ 5 ที่นั่ง (รวมคนขับ) สะดวกสบายโดยเฉพาะผู้โดยสารหลัง ในส่วนของผู้โดยสารด้านหน้าและคนขับ อาจจะสังเกตได้ว่าซุ้มล้อของตัวรถค่อนข้างใหญ่หน่อย ทำให้เมื่อวางเท้าบริเวณพื้น อาจต้องเขยิบเข้ามาช่วงกึ่งกลางหน่อย รวมไปถึงพวงมาลัยไฟฟ้าแบบมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน ที่เบามาก แต่จะหน่วงหน่อยหากใช้ความเร็วที่มากขึ้น

แต่เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับรถสาธารณะ ออฟชั่นต่างๆ ที่ไม่จำเป็นอาจถูกตัดออก (เช่น ที่วางแขนกลางเบาะหลัง) แต่โดยรวมก็ถือว่ามีมาให้ใช้งานได้คุ้มค่าคุ้มราคา เช่น ระบบแอร์แบบ Duo Zone ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold, กล้องมองภาพถอยหลัง ระบบช่วยเบรหฉุกเฉิน EBA หรือระบบป้องกันรถไหล AVH เป็นต้น

https://car2day.com/wp-content/uploads/2023/12/B8S_2007-scaled.jpg

ตกแต่งด้วยโทนสีดำและเบาะหนังสีดำประหยัดพลังงาน มาพร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องเสียง USB-A ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง รวมถึงระบบ i-Pedal รวมทั้งระบบ TCS Cruise Control ให้ทัศนวิสัยโดยรวมที่ดี กระจกมองข้างบานใหญ่ สังเกตวัตถุได้ง่าย

https://www.techmoveon.com/wp-content/uploads/2023/12/QQAot0MA.jpg

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด จำกัดไว้ที่ 130 กม./ชม. สำหรับเวอร์ชั่นแท็กซี่ วิ่งได้ระยะทางไกลได้ถึง 442 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ระยะทางนี้ อาจจะไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย ถือว่าพอเพียงกับทาง EVme Plus วิจัยมาว่ารถแท็กซี่ส่วนมากใช้งานกันประมาณ 300 กม./วัน (ซึ่งจะเพิ่มระยะทางได้ แต่ราคาก็คงเพิ่มไปด้วย) แต่การใช้งานจริง วิ่งได้ประมาณ 400 กม.+-ครับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Eco, Normal และ Sport

https://www.techmoveon.com/wp-content/uploads/2023/12/EVme-Test-Drive_04.jpg

ใช้ชุดแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาดความจุ 55,2 kWh รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 75 กิโลวัตต์ (พอๆ กับรถ EV รุ่น Top เลยทีเดียว) ชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที

สำหรับการทดสอบนั้น ทางทีมงานของ EVme ให้เราไปทดสอบรถกันที่ลานกว้างด้านข้างของ Bravo BKK ซึ่งทดสอบอัตราเร่งในระยะทางสั้นๆ พอที่จะทำความเร็วได้ตั้งแต่ 0 – 60 กม./ชม. ซึ่งอัตราเร่งอาจไม่ปรู๊ดปร๊าดแบบรถ EV รุ่นอื่นๆ นัก เนื่องจากออกแบบมาสำหรับใช้เป็นรถสาธารณะ

พอถึงด่านที่ต้องขับในทางช่วงขรุขระ ก็พบว่าภายในห้องโดยสารเก็บเสียงได้ค่อนข้างดี อาจจะมีอาการยวบนิดๆ เนื่องจากเซ็ทช่วงล่างมาให้ผู้โดยสารนั่งสบายเป็นหลัก ส่วนจังหวะขับในช่วงสลาลอมที่ความเร็วต่ำ 25-30 กม./ชม. และความเร็วสูงประมาณ 50 กม./ชม. พบว่ามีอาการโยนตัวบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงของแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างต่ำ

https://car2day.com/wp-content/uploads/2023/12/EVme-Test-Drive_15-scaled.jpg

สรุปก็คือรุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเป็นหลัก ขุมพลังก็มีมาให้พอตัว สำหรับการใช้งานในเมือง และวิ่งได้บนถนนโลกพระจันทร์ของ กทม. แบบนุ่มนวลถูกใจผู้โดยสารด้านหลังครับ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมบริการหลังการขายครบวงจร ด้วยการร่วมมือกับ FIT Auto ให้บริการซ่อมบำรุง และจับมือศูนย์บริการแท็กซี่ในท้องถิ่น ร่วมกับอู่แท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในการให้บริการซ่อมบำรุงหนักสำหรับรถรุ่นนี้

https://car2day.com/wp-content/uploads/2023/12/EVme-Test-Drive_09-scaled.jpg

สำหรับ AION ES มาในราคา 850,000 บาท (สำหรับลูกค้าทั่วไป) พร้อม Home Charger ฟรีค่าติดตั้ง พรมปูท้าย และกรอบป้ายทะเบียน และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม. และราคา 929,900 บาท สำหรับรุ่นแท็กซี่ (จำนวนจำกัดเพียง 2,000 คัน) จะได้เพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่เป็น 9 ปี หรือ 900,000 กม. รวมไปถึงประกันภัยชั้น 3 พร้อมระบบมิเตอร์

ขับเคลื่อนโดย Blogger.