ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

Royal Enfield เปิดตัวราคา Himalayan รุ่นใหม่ล่าสุดในไทย ที่ 219,000 - 226,000 บาท


 

Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc - 750cc) ประกาศราคารถมอเตอร์ไซค์ที่ตอบโจทย์นักผจญภัยอย่าง Himalayan รุ่นใหม่ล่าสุดในไทย ซึ่งจะวางจำหน่ายในโชว์รูมทั่วประเทศ

Himalayan รุ่นใหม่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนของโรยัล เอ็นฟีลด์ ที่ทันสมัย น้ำหนักเบาที่สุด และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ Sherpa 450 ที่จะเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ผจญภัยให้ดียิ่งขึ้น โดยถูกออกแบบมาอย่างดีจนได้รับการเลือกใช้จากนักสำรวจนับพันคนทั่วโลกในการผจญภัยทั่วทุกภูมิภาคเพื่อสัมผัสความน่าตื่นเต้นและการขับขี่ทัวร์ริ่งอย่างแท้จริง ซึ่ง Himalayan รุ่นใหม่นี้จะยกระดับประสบการณ์เหล่านี้ให้เหล่าผู้ขับขี่ขึ้นอีกหลายระดับ

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-josh-farrell-4-kD3MD0.jpg

คุณอนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “รถมอเตอร์ไซค์ โรยัล เอ็นฟีลด์ มีความดึงดูดใจในระดับสากล เราไม่ได้เพียงแค่มอบประสบการณ์ Pure Motorcycling เท่านั้น แต่ยังมอบความสุขและความตื่นเต้นในการขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ พร้อมทั้งความหลากหลาย ความสะดวกสบาย และการใช้งานสุดง่ายดาย เรามั่นใจว่ารถจักรยานยนต์ของเราจะเป็นสิ่งที่นักขี่มอเตอร์ไซค์ต้องการ และ Himalayan คือความสมบูรณ์แบบในการเติมเต็มความฝันของผู้ขับขี่ เพราะมันถูกสร้างขึ้นเพื่อลุยในทุกสภาพภูมิประเทศและทุกสภาพอากาศ 

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-josh-farrell-11-QVJysy.jpg

เราออกแบบรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ให้เป็นที่สุดสำหรับการผจญภัย เป็น "รถมอเตอร์ไซค์หนึ่งเดียว" ที่คุณต้องการในทุกการขับขี่ เพราะถ้ามันสามารถลุยเทือกเขาหิมาลัยได้ มันก็สามารถลุยทุกสิ่งในโลกนี้ได้ รถจักรยานยนต์รุ่นนี้จะดึงดูดนักขับขี่ที่ชื่นชอบการผจญภัยและความหลากหลายที่มากขึ้นในประเทศไทย ผู้ขับขี่ในไทยได้ตอบรับเป็นอย่างดีและทำให้ โรยัล เอ็นฟีลด์ กลายเป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในประเทศไทย เรามั่นใจว่านักขี่ในไทยจะตื่นเต้นที่จะได้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ที่สวยงามคันนี้อย่างแน่นอน”

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-mark-wells-34-tnmIeL.jpg

Himalayan รุ่นใหม่นี้ มีกำลังและแรงบิดมากขึ้น คงเอกลักษณ์ของ โรยัล เอ็นฟีลด์ ด้วยกำลังสูงสุด 40.02 PS ที่ 8,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 40 Nm ที่ 5,500 รอบ/นาที เครื่องยนต์ Sherpa ขนาด 452 ซีซี ใหม่สร้างแรงบิดได้ถึง 90% ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 3,000 รอบ/นาที ขึ้นไป ไม่ต้องลากรอบสูงเพื่อเพิ่มกำลัง

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-josh-farrell-18-EvPvnm.jpg

สำหรับตัวรถใหม่นี้ มีระยะห่างจากพื้นและช่วงล่างที่ยาวขึ้น ทำให้คุณสามารถขับขี่ในภูมิประเทศที่ท้าทายยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าตัวถังจะติดพื้น ด้วยโครงสร้างใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้การเลี้ยวและเข้าโค้งที่เสถียร โครงสร้างรวมถึงโช้คหัวกลับ Showa แบบตลับที่ออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายตั้งแต่ถนนเรียบไปจนถึงทางลำธารหิน ประกอบกับช่วงล่างที่มีคุณภาพยังช่วยให้ผู้ขี่ไม่ต้องเหนื่อยล้ากับการขับขี่ พร้อมลุยในทุกเส้นทางในส่วนของการรองรับแรงกระแทก Himalayan ยังคงใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 17 นิ้ว พร้อมขอบล้ออลูมิเนียมที่พัฒนาขึ้นใหม่และยางหลังขนาดกว้าง 140/80 เพื่อการยึดเกาะที่เหนือกว่า การควบคุมที่มั่นใจ และความเสถียรในการขับขี่ทั้งออฟโร้ดและออนโร้ด

การปรับปรุงหลักสรีรศาสตร์ของตัวรถตอบสนองต่อสรีระของผู้ขับขี่ที่เพิ่มความมั่นใจในทุกท่วงท่าการขับขี่ ส่วนหลังของถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตรได้ถูกทำให้บางลงเพื่อความสบายของการวางเข่าเมื่อขับขี่ เบาะนั่งผู้ขี่และผู้โดยสารที่แยกกันช่วยให้สามารถปรับเบาะนั่งผู้ขี่ได้สูงขึ้น 20 มม. 

https://innews.news/images/1725872718-1.jpg

นอกจากนี้ยังมีเบาะนั่งแบบเตี้ยเป็นตัวเลือก เบาะคนขี่สามารถปรับได้หลายระดับ ตั้งแต่ 805 มม. ไปจนถึง 845 มม. ซึ่งเมื่อรวมกับโครงสร้างและถังน้ำมันที่แคบและเพรียวลง ทำให้การขับขี่ และการเข้าโค้งกระชับมากยิ่งขึ้น เบาะนั่งทั้งผู้ขี่และผู้โดยสารรวมถึงตำแหน่งการนั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสบายสำหรับการขี่ในเส้นทางระยะยาวในทุกสภาพการขับขี่

“มอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ และตัดทุกส่วนเกินที่กวนใจ”ด้วยเทคโนโลยีที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ TripperDash ใหม่ ระบบนำทางเต็มรูปแบบครั้งแรกของโลก ข้อมูลจากระบบ Google Maps พร้อมเสียงนำทางกว่า 130 ภาษา ตัวควบคุมแบบจอยสติ๊กที่แฮนด์ด้านซ้ายช่วยให้คุณควบคุมหน้าจอรวม เพลง สายเรียกเข้า และข้อความที่เชื่อมต่อกับมือถือ และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเทคโนโลยี Ride-by-Wire คันเร่งแบบไฟฟ้า พร้อม 3 โหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น Performance หรือ Eco ระบบ ABS หลังสามารถปิดการใช้งานได้เพื่อประสบการณ์การขับขี่ออฟโร้ดที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-joe-elasmar-7-5c0Mzk.jpg

Royal Enfield มีอุปกรณ์แต่งรถสำหรับ Himalayan ที่ต้องตาต้องใจหลากหลายรายการให้เลือก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสัมภาระอลูมิเนียม Box Aluminum Luggage หน้าจอยกสูง ที่นั่ง Adventure Seat และไฟตัดหมอก LED อุปกรณ์เสริมสไตล์แรลลี่ เสริมสมรรถนะการขับขี่ออฟโร้ดให้กับ All New Himalayan เมื่อใช้บังโคลนหลังแรลลี่คู่กับที่นั่งแรลลี่ที่บางลงเพื่อลุคที่ดุดันมากขึ้น ทั้งยังรองรับกระเป๋า Rackless Soft Bags และกระเป๋า Tail Pack ในขณะที่การ์ดเบรกมือ การ์ดคลัตช์ การ์ดอ่าง และการ์ดไฟหน้าที่ให้การปกป้องขั้นสูงสุดในทุกภูมิประเทศ

https://cf.autodeft2.pw/content/20240909/himalayan-450-anz-tom-fossati-web-res-brendan-bell-25-bEOnNw.jpg

Royal Enfield Himalayan จะมีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ Kaza Brown, Slate Himalayan Salt, และ Hanle Black โดยรุ่น Base มีราคาอยู่ที่ 219,000 บาท รุ่น Pass มีราคาอยู่ที่ 222,000 บาท รุ่น Hanley Black มีราคาอยู่ที่ 226,000 บาท

Royal Enfield Himalayan มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 3 ปี และบริการบำรุงรักษาฟรี 3 ครั้ง**

ขับเคลื่อนโดย Blogger.