ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

Automobili Pininfarina เปิดตัว Battista Edizione Nino Farina รถ Hypercar EV รำลึกแชมป์ F1 ในยุค 50


 

Automobili Pininfarina (ออโตโมบิลี ปินินฟารินา) ยกย่องความสำเร็จของตำนานนักแข่ง Formula 1 (ฟอร์มูลาวัน) ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Hyper GT รุ่นใหม่ Battista Edizione Nino Farina (แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา)

Battista Edizione Nino Farina จะเปิดให้ยลโฉมครั้งแรกในงาน Goodwood Festival of Speed พร้อมร่วมทดสอบโดย Nick Heidfeld (นิค ไฮด์เฟลด์) นักแข่งระดับตำนานและอดีตแชมป์แข่งรถทางลาดรายการกู๊ดวูด

ทั้งนี้ นิค หรือที่รู้จักในฉายา 'ควิก นิค' (Quick Nick) มีบทบาทสำคัญในฐานะที่ปรึกษาของ Automobili Pininfarina และเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของ Battista จนถึงในปัจจุบัน

https://mma.prnasia.com/media2/2149658/Battista_Edizione_Nino_Farina_04.jpg?p=publish

ภายหลังจากความสำเร็จของรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดก่อนหน้าอย่าง Battista Anniversario โมเดลรุ่นล่าสุดอย่าง Battista Edizione Nino Farina ได้นำเสนอเรื่องราวน่าประทับใจของตำนานนักแข่งรถฟอร์มูลาวันอย่าง Nino Farina (นิโน่ ฟารินา) แชมป์ F1 คนแรกของโลก

และหลานชายของสุดยอดนักออกแบบอย่าง Battista 'Pinin' Farina (แบตติสตา 'ปินิน' ฟารินา) โดยจะเปิดตัวใกล้กับสนามแข่ง Goodwood Circuit (ก๊ดวูด เซอร์กิต) ซึ่งเป็นสนามแข่งที่นิโน่คว้าชัยชนะในปี 2494 ในรายการ Goodwood Trophy (ก๊ดวูด โทรฟี) (นอกเหนือจากรายการชิงแชมป์ฟอร์มูลาวัน)

https://cf.autodeft2.pw/content/20230712/battista-edizione-nino-farina-01-1-AbgMvt.jpg

Battista Edizione Nino Farina ผลิตเพียง 5 คันทั่วโลก มาพร้อมการออกแบบภายนอก-ภายในที่ยกย่องตำนานนักแข่งจากเมืองโตริโนอย่าง นิโน่ ฟารินา โดยจะเล่าถึง 1 ใน 5 ช่วงเวลาสำคัญของนิโน่ ทำให้มั่นใจได้ว่านักสะสมจะได้เป็นเจ้าของผลงานการออกแบบชิ้นเอกของอิตาลีที่ไม่ซ้ำใคร

แบตติสตา 'ปินิน' ฟารินา เป็นผู้ก่อตั้ง Carrozzeria Pininfarina (คาร์รอซเซอเรีย ปินินฟารินา) ที่โด่งดัง ชื่อของเขานำมาใช้เป็นชื่อของรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตโดย Automobili Pininfarina อย่างแบตติสตา เพื่อยกย่องความฝันของเขาในการสร้างรถแบรนด์ปินินฟารินา

ในฐานะลุงของนิโน ฟารินา เขาเป็นผู้จุดประกายความหลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของหลานชายผู้กลายเป็นแชมป์โลกในอีกไม่กี่ปีให้หลัง แบตติสตาเคยพาหลานชายวัย 16 ปีเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในฐานะผู้โดยสาร สิ่งนี้สร้างความกระหายในการแข่งขันให้กับนิโน่ ส่งผลให้นิโน่ได้เข้าร่วมการแข่งขันและชิงแชมป์รายการต่างๆ มากมายทั่วอิตาลีในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930

https://cdn.motor1.com/images/mgl/wl4gNR/s3/pininfarina-battista-edizione-nino-farina.jpg

ในปี 2493 นิโน่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกที่จัดอย่างเป็นทางการโดย FIA โดยเป็นผู้นำทีมแข่งรถจำนวนสามคัน ในปีแรกของการแข่งชิงแชมป์โลก นิโน่ ฟารินา สามารถเอาชนะการแข่งขันในอังกฤษ (ครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ซิลเวอร์สโตน) สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ทำให้คว้าตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้

การออกแบบที่ไม่ซ้ำใครผสานเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยี รายละเอียดสุดประณีตของปินินฟารินาในอดีต และการตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจจากมรดกแห่งตระกูล

ตัวถังรถมาในสี Rosso Nino เป็นตัวแทนความทรงจำกับสีแดงของรถแข่งในอิตาลีที่ทำให้เขาได้ชัยชนะยิ่งใหญ่ ขณะที่การตกแต่งและการออกแบบหลักผสานเข้ากับดีไซน์ไม่ซ้ำใคร และตัวถังด้านล่างที่มาในสี Bianco Sestriere และสี Iconica Blu

https://www.topgear.com/sites/default/files/2023/07/Battista%20Edizione%20Nino%20Farina_09.jpg

ยังครอบคลุมแถบหมุดสั่งทำพิเศษบนกระจกมองข้างและด้านล่างของปีกหลัง มาพร้อมกราฟิกพิเศษรูปพวงมาลัยสวมศีรษะและหมายเลข '01' ในสี Bianco Sestriere บริเวณแผงด้านของหลังประตู

ตัวโครงภายนอกยังประกอบด้วย Furiosa Pack ครอบคลุมสปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์โฉมใหม่ กาบข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง ตกแต่งด้วยแถบหมุดสี Bianco Sestriere ขณะที่ Carbon Accent Pack ตกแต่งด้วยสีดำคาร์บอน

ตัวหลังคา Goccia สีเข้มมาพร้อม Jewelly Pack เคลือบอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ ควบคู่กับคาลิปเปอร์เบรกสีดำและวงแหวนล็อคตรงกลางที่เคลือบด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ และตัวล้ออัลลอย Glorioso อะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 10 ก้านผิวเคลือบสี Satin Gold

นอกจากนี้ยังมีรอยสลักชื่อนิโน่ ฟารินา บนชุดไฟหน้าที่เคลือบอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำ ขณะที่ปีกข้างคาร์บอนด้านคนขับได้รับการเสริมด้วยลายเซ็นกราฟิกของนิโน่ ฟาริน่า เช่นกัน

https://mma.prnasia.com/media2/2149659/Battista_Edizione_Nino_Farina_05.jpg?p=publish

การตกแต่งภายในมาในธีมทูโทนแบบพิเศษ โดยเบาะนั่งคนขับนั้นบุด้วยหนังสีดำ ขณะที่เบาะนั่งผู้โดยสารบุด้วยหนังสีเบจและสีดำอัลคันทารา

ตัวเบาะนั่ง Pilota ดีไซน์ไม่ซ้ำใครระหว่างคนขับและผู้โดยสารมีการปักชื่อของ นิโน่ ฟาริโน บริเวณพนักพิงหลัง ที่นั่งคนขับสีดำมีปักรูปพวงมาลัยสวมศีรษะและตัวเลขกราฟิก '01' สีทอง ในขณะที่โลโก้ปินินฟารินาตกแต่งด้วยสีแดงบนเบาะผู้โดยสารสีเบจ ด้านหลังของเบาะนั่งทั้ง 2 ข้างทาสีรอซโซ่ นิโน่ ที่เข้ากับตัวรถภายนอก

https://www.autoblog.it/app/uploads/2023/07/pininfarina-battista-edizione-nino-farina-11.jpg

เช่นเดียวกับส่วนนอกของรถ ตัวเบาะที่นั่งมาพร้อมเข็มขัดนิรภัยสีไอโกนิกา บลู พร้อมตะเข็บดูโอโทนสีเบจสลับแดงบริเวณหน้าปัดและที่นั่ง ส่วนพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุสีดำ Alcantara แบบคาร์บอน พร้อมวงแหวน 12 นาฬิกาอะลูมิเนียมขัดเงาชุบสีแดง ยังครอบคลุมแผ่นพวงมาลัย ทำจากอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำพร้อมลายเซ็นนิโน่ ฟารินา นอกจากนี้ยังมีจิวรีแพ็กอะลูมิเนียมขัดเงาชุบผิวสีดำอีกด้วย

ห้องโดยสารยังประกอบด้วยโครงสีดำ ที่สื่อถึงความเป็นนิโน่ ฟารินา ขณะที่แผ่นประตูผู้โดยสารในแต่ละคันนั้นจะแตกต่างกันออกไป

https://automundo.com.ar/wp-content/uploads/2023/07/Pininfarina-Battista-Edizione-Nino-Farina-4.jpg

ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังล้ำสมัย มอบสมรรถนะสูงสุด รถไฮเปอร์จีทีไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของโลกนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนความจุ 120 kWh ที่บรรจุอยู่ภายในกล่องคาร์บอนไฟเบอร์แข็งแรงน้ำหนักเบา

มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ทำงานแยกกันสี่ตัวสำหรับแต่ละล้อ รวมกำลังสูงสุด 1,900 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 2,340 นิวตัน-เมตร ผสานกับเทคโนโลยีควบคุมแรงบิด (Full Torque Vectoring) ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Control) และระบบซอฟต์แวร์ชุดเฟืองท้าย

ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการส่งกำลังและควบคุมการตอบสนองได้อย่างที่ ในขณะที่ชุดแบตเตอรี่รูปตัว T แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ก็ติดตั้งอยู่หลังเบาะเพื่อให้แน่ใจว่าตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ

https://www.topgear.com/sites/default/files/2023/07/Battista%20Edizione%20Nino%20Farina_26.jpg

เทคโนโลยีการควบคุมการออกตัวที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้รถฟอร์มูลาวันมีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. ใน 1.79 วินาที, 0-100 กม./ชม. ใน 1.86 วินาที, 0-120 ไมล์/ชม. ใน 4.49 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 4.75 วินาที นอกจากนี้ การทดสอบอย่างเป็นทางการยังพิสูจน์แล้วว่า แบตติสตาเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่เบรกได้เร็วที่สุดในโลก โดยสามารถลดความเร็วจาก 100-0 กม./ชม. ได้ในระยะทางเพียง 31 ม.

มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบออลวีล และโหมดการขับขี่ 5 โหมดพร้อมรองรับทุกการขับขี่ ได้แก่ คาลมา (Calma), พูรา (Pura), เอเนอร์จิกา (Energica), ฟูริโอซา (Furiosa) และคารัตเตเร (Carattere) ให้ระยะการขับขี่สูงสุด 476 กม. (296 ไมล์ ตามมาตรฐาน WLTP) และ 300 ไมล์ ตามเกณฑ์ US EPA

ขับเคลื่อนโดย Blogger.