ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

Mitsubishi เปิดตัว All-New Mitsubishi Triton ปฏิวัติวงการรถกระบะ จำหน่ายในไทยที่แรกในโลก!


 

Mitsubishi Motors Corporation (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) เปิดตัว All-New Mitsubishi Triton (ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน) หรือ Mitsubishi L200 (มิตซูบิชิ แอล 200) รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่สร้างสรรค์ใหม่ทั้งคันในรอบ 9 ปี ณ งานเวิลด์พรีเมียร์ ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย

พร้อมประกาศราคาและเริ่มจำหน่ายในไทยที่แรกในโลก ก่อนเตรียมเปิดตัวในอาเซียน และโอเชียเนีย โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ช่วงต้นปี 2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2521 โดยในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา ได้ผลิตรถกระบะมาแล้วกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจเนอเรชั่น ขายใน 150 ประเทศทั่วโลก จึงทำให้รถกระบะ Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัทฯ

โดย All-New Mitsubishi Triton จะเป็นรถกระบะเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ปฏิวัติทุกอณู! พลิกโฉมทุกมิติ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ทั้งการพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่ แชสซีส์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure)

https://www.motorshow.in.th/wp-content/uploads/2023/07/Bims-welcome-triton-thumb-1500x1000-1.jpg

มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “เราพัฒนาออล-นิว ไทรทัน ที่หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็นรถระบะสำหรับคนยุคใหม่ โดยในทุกฟีเจอร์หลักของออล-นิว ไทรทัน ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีสุดล้ำเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกอบด้วย เฟรม ตัวถัง และแชสซีส์ที่แข็งแกร่งทนทาน เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดังใจ รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม

ด้วยเป้าหมายการผลิตสูงสุด 200,000 คัน เพื่อจำหน่ายในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน นับเป็นยานยนต์รุ่นสำคัญ เป็นขุมพลังขับเคลื่อน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรก ซึ่งเปิดตัวในยุคแห่งการเติบโต ขอให้ทุกท่านติดตามทุกย่างก้าวของเราที่มุ่งสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ นับจากวันนี้” มร. คาโตะ กล่าวเสริม

https://storage-wp.thaipost.net/2023/07/Z62_3583.jpg

ทางด้าน มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งคันโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งโครงสร้างเมกาเฟรม ช่วงล่างที่มอบการควบคุมอย่างเหนือชั้น ห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายสุดพรีเมียม พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power อันทรงพลัง เพื่อช่วยยกระดับชีวิตและธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น”

“ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการผลิต และจำหน่ายในไทยเป็นที่แรกในโลก เราหวังว่า ออล-นิว ไทรทัน จะมาปฏิวัติเพื่อเอาชนะความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ในตลาดเวลานี้ พร้อมกับช่วยยกระดับชีวิตและธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดย ออล-นิว ไทรทัน จะประกอบไปด้วยรุ่นย่อยต่างๆ ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มในตลาดรถกระบะ เนื่องจากได้รับการออกแบบและพัฒนาจากการศึกษาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าชาวไทย ทั้งการใช้งานแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์” มร. โคอิโตะ กล่าวเพิ่มเติม

https://www.wannateller.com/wp-content/uploads/2023/07/Z62_3351-%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88.jpeg

ด้วยเป้าหมายการผลิตสูงสุด 200,000 คัน เพื่อจำหน่ายในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน นับเป็นยานยนต์รุ่นสำคัญ เป็นขุมพลังขับเคลื่อน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรก มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มในตลาดรถกระบะ ทั้งการใช้งานแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์

ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้นำเสนอแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) ก่อนเปิดตัว ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในไทยด้วยยอดจองกว่า 10,000 คันในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และชื่อเสียงของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

https://storage-wp.thaipost.net/2023/07/Z62_3691.jpg

สำหรับในไทย All-New Mitsubishi Triton เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2566 ในรูปแบบเพียง 2 ตัวถัง กับราคาที่สัมผัสได้ ดังนี้:

All-New Mitsubishi Triton Single Cab ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ

- Mitsubishi Triton Single Cab รุ่น Pro M/T ราคา 699,000 บาท
- Mitsubishi Triton Single Cab รุ่น Pro A/T ราคา 749,000 บาท

All-New Mitsubishi Triton Double Cab ยกสูง ขับเคลื่อนล้อหลัง

- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Plus Pro M/T ราคา 820,000 บาท
- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Plus Prime M/T ราคา 893,000 บาท
- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Plus Prime M/T ราคา 938,000 บาท
- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Plus Ultra M/T ราคา 982,000 บาท
- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Plus Ultra M/T ราคา 1,027,000 บาท

All-New Mitsubishi Triton Double Cab ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ

- Mitsubishi Triton Double Cab รุ่น Prime 4WD M/T ราคา 1,016,000 บาท

https://img1.wsimg.com/isteam/ip/e446863c-0f35-437c-afdb-b12ba8cf7544/TO209684.jpg

ไฮไลท์ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ออล-นิว ไทรทัน มีตัวถังให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการใช้งานของทั้ง 7 กลุ่มตลาดรถในไทย: ตัวถัง Double Cab มาพร้อมเบาะ 2 แถว มอบสะดวกสบายแบบรถ SUV และความอเนกประสงค์แบบรถกระบะ ขณะที่ตัวถัง Single Cab (ตอนเดียว) มีเบาะคู่หน้า และตัวถัง Mega Cab (ตอนครึ่ง) มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ช่วยให้ ปรับเอนเบาะคู่หน้าได้สะดวกขึ้น

โครงสร้างรถ เมกาเฟรม ใหม่! รวมถึงช่วงล่าง และชิ้นส่วนอื่นๆ สร้างสรรค์ขึ้นใหม่จากเทคโนโลยีล้ำสมัยเอกสิทธิ์เฉพาะมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ อาทิ โหมดการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

https://f.ptcdn.info/228/081/000/rye1pz1qts02Ofq1a91sz-o.jpg

(1) เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหม่! และเครื่องยนต์ใหม่! ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า

โครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น

ไม่เพียงมอบสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายมากกว่าเดิม ออล-นิว ไทรทัน ยังแข็งแรงสมบุกสมบันที่เหนือชั้น พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/wp-content/uploads/2023/07/TO209772.jpg

เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์

ส่วนเครื่องยนต์อีก 2 แบบ จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร Twin Turbo ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร

กับเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร Turbo ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร จะตามมาภายหลัง ซึ่งยังไม่มีวางขายในช่วงแรกของการเปิดตัว

ออล-นิว ไทรทัน มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย

https://xo-autosport.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2023/07/all-new-mitsubishi-triton-7.jpg

(2) ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ด้วยช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์

ออล-นิว ไทรทัน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ และระบบ Easy Select 4WD สำหรับรุ่น ซิงเกิ้ล แค็บ ที่ตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้ าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง

ระบบ Super Select 4WD-II ในออล-นิว ไทรทัน มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ)

พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)

https://drivetripper.com/userfiles2020/images/World-Premiere-of-the-ALL-NEW-TRITON_36.jpg

สำหรับระบบ Easy Select 4WD สามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4L (สำหรับการขับขี่ด้วยอัตราทดความเร็วต่ำ) ตอบโจทย์การใช้งานเส้นทางหลากหลาย

ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ติดตั้งพร้อมกับระบบ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อน และแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุล

นอกจากนี้ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น

https://drivetripper.com/userfiles2020/images/World-Premiere-of-the-ALL-NEW-TRITON_39.jpg

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ป้องกันรถถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน

ช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นด้านหน้าซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวล ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่พัฒนาให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมโช้คอัพขนาดใหญ่ขึ้น

ถึงแม้ตัวถังของ ออล-นิว ไทรทัน จะมีขนาดใหญ่บึกบึนยิ่งขึ้น แต่ยังคงรัศมีวงเลี้ยวที่แคบและคม เพื่อให้ควบคุมได้อย่างคล่องตัว และเสริมทัศนวิสัยให้สะดวกและปลอดภัยขึ้นด้วยการออกแบบฝากระโปรงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นสายขอบฝากระโปรง

https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/wp-content/uploads/2023/07/TO209703.jpg

(3) แนวคิดการออกแบบ “บีสท์ โหมด” [Beast Mode]

ออล-นิว ไทรทัน ผสมผสานความปราดเปรียวเข้ากับการออกแบบที่แข็งแกร่งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตาพร้อมกับสะท้อนความบึกบึนและทรงพลังแบบฉบับรถกระบะที่แท้จริง

การออกแบบด้านหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ ไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield) ทรงพลัง กระจังหน้าและซุ้มล้อแบบ 3 มิติที่ดุดัน พร้อมกันชนหน้าที่ออกแบบเพื่อเน้นย้ำรูปทรง

เสริมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ดีไซน์ดุจสายตาเหยี่ยว ผสานกับไฟส่องสว่างหน้า แบบสามมิติ ขณะที่กระบะท้ายไออกแบบให้พื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น เสริมด้วยไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง แสดงถึงความกว้างขวาง หนักแน่นแข็งแกร่ง

https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2023/07/TRITON12.jpg

ส่วนรูปทรงห้องโดยสารและสปอยเลอร์ท้าย เพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ สะดวกสบายด้วยบันไดข้างกว้างขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

การออกแบบภายในห้องโดยสารและแผงควบคุม ภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตและใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมวัสดุบุนุ่ม และตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วน

นอกจากนี้ ออล-นิว ไทรทัน ยังใช้ชุดมาตรวัดและสวิตช์ควบคุมต่างๆ ที่ออกแบบให้มองเห็นได้อย่างโดดเด่น และควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนา ทั้งพวงมาลัย ก้านจับ และมือจับเปิดประตู ออกแบบภายใต้แนวคิด “มิตซูบิชิ ทัช” (Mitsubishi Touch)

https://drivetripper.com/userfiles2020/images/World-Premiere-of-the-ALL-NEW-TRITON_19.jpg

ใช้จอดิจิทัลแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Ultra และ Prime 4WD) ส่วนหน้าจอ Infotainment เป็นแบบลอยตัวขนาด 10 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น Ultra มีขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง) รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทุกรุ่น และมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายในบางรุ่น

มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องกระจายลมเย็นบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (เฉพาะรุ่น Ultra ตัวถัง 4 ประตู Double Cab)

https://drivetripper.com/userfiles2020/images/World-Premiere-of-the-ALL-NEW-TRITON_08.jpg

แผงคอนโซลกลางรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มม. ได้มากถึง 4 ขวด ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้า ช่องวางสมาร์ทโฟน และช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ กว้างขวางใช้งานสะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือ

นอกจากนี้ แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และยังมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม

https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/wp-content/uploads/2023/07/ND8_6731.jpg

(4) ยกระดับสมรรถนะรถกระบะให้เหนือกว่า

ส่วนกระบะตอนท้าย ได้ออกแบบให้ระยะความสูงของกระบะจากพื้น ต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มม. อยู่ที่ 820 มม. พร้อมขยายพื้นที่ด้านบนของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น และเสริมความแข็งแรงด้วยเฟรมเพื่อวางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้สะดวกมากขึ้น

เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบให้ช่วยหนุนแผ่นหลังส่วนล่าง ขณะที่พื้นที่ช่วงไหล่มีรูปทรงเปิดกว้างเพื่อความสบายในการขยับตัว ช่วยลดความเหนื่อยเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระยะเบาะที่ตรงกับตำแหน่งสะโพกขยับสูงขึ้น เพื่อปรับสรีระขณะขับขี่ให้อยู่ในท่าตรงโดยยังคงความคล่องตัวสะดวกสบายตามหลักสรีระศาสตร์ ทั้งเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นเส้นทางได้สะดวกจากภายในห้องโดยสาร

https://www.realtimecarmagazine.com/newsite/wp-content/uploads/2023/07/TO209464.jpg

นอกจากนี้ การเข้า-ออกจากห้องโดยสารทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบเสาด้านหน้าใหม่ แนวตรงมากขึ้น ช่วยให้เปิดประตูได้กว้างขึ้น และเพิ่มพื้นที่บันไดข้างให้ใหญ่ขึ้น ลดโอกาสลื่นไถล ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม

ออล-นิว ไทรทัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด อาทิ

- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)

ตลอดจนระบบอื่นๆ

https://drivetripper.com/userfiles2020/images/World-Premiere-of-the-ALL-NEW-TRITON_40.jpg

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ออกแบบ All-New Mitsubishi Triton ให้มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งมากมาย ไม่ว่าจะป้องกันพื้นผิวสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ จนถึงตกแต่งสไตล์รถส่วนตัว เช่น สปอร์ตบาร์ ชุดตกแต่งซุ้มล้อบังโคลน และคิ้วกันกระแทกประตู ตราสัญลักษณ์ที่กระจังหน้า และพื้นปูกระบะซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถกระบะ ก็มีให้เลือกเช่นกัน

ขับเคลื่อนโดย Blogger.