ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

Volvo Trucks เปิดตัว Volvo FM13 Smart Eco สมรรถนะดีขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม


 

Volvo Trucks (วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย) เปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่ Volvo FM13 Smart Eco เป็นหัวลากรุ่นย่อยของ Volvo FM13 เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ประกอบการขนส่งในไทย โดยมีการพัฒนาฟีเจอร์ในตัวรถให้ช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสนับสนุนสภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน ที่ดียิ่งขึ้น

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/BN2gKFmUdHq5h2NM0gka.jpg

มร. มาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขายวอลโว่ ทรัคส์ กล่าวว่า “สำหรับรถหัวลากวอลโว่ รุ่นย่อยใหม่ Volvo FM13 Smart Eco 400 แรงม้า เป็นอีกรุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์งานขนส่งที่หลากหลาย และมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เพียงพอ หลังจากแนะนำรถรุ่นนี้ลงตลาดไปช่วงเดือนมีนาคม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เราได้มีการให้ลูกค้าหลายบริษัทได้นำรถไปวิ่งงานจริงเพื่อขับทดสอบสมรรถนะ และพิสูจน์เรตน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีการแบกน้ำหนักตามกฏหมายในหลากหลายเส้นทาง อาทิ เช่น เส้นทางแม่สอด – ระยอง  เส้นทางขึ้น-ลงเขาในพื้นที่จังหวัดลำพูน ลำปาง และอื่นๆ พบว่าผลตอบรับจากการทดสอบส่วนใหญ่เป็นที่น่าพอใจ 

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/IIOjRU69IDtJMBmMMxue.jpg

เราจึงมั่นใจว่า Volvo FM13 Smart Eco จะสามารถตอบโจทย์ในงานขนส่งสำหรับลูกค้าทั้งวอลโว่ปัจจุบัน และรวมถึงลูกค้าเจนเนอเรชั่นใหม่ที่อยากลองใช้รถบรรทุกยุโรปในธุรกิจขนส่ง”

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/abi0cPIQgsWGfBy9OYt8.jpg

ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น

รถหัวลากวอลโว่ รุ่นย่อยใหม่ Volvo FM13 Smart Eco 400 แรงม้า มาพร้อมกับ เกียร์ I-Shift ที่มีระบบซอฟต์แวร์อัพเดทใหม่ G-Version ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์แม่นยำและเร็วขึ้นถึง 30% ให้การขับขี่นุ่มนวล ลื่นไหล การส่งถ่ายกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเชื้อเพลิงดียิ่งขึ้น

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/Em8gmw4he7u3vhfJeXhI.jpg

เพิ่มสมรรถนะงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด


ด้วยคุณสมบัติของช่วงล่างถุงลม อัพเกรดใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ชึ้น และได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับตลาดเอเชียที่มีอากาศร้อนโดยเฉพาะ ทำให้มีสมรรถนะในการรับน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม และให้การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/edp2bKeH2UcL65csO0Zq.jpg

สนับสนุนพนักงานขับรถให้สะดวกสบาย และไม่เมื่อยล้าแม้ต้องขับรถทางไกล

หัวเก๋งมีพื้นที่ในการทำงานที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมให้ทัศนวิสัยดียิ่งขึ้นด้วยหน้าต่างบานใหญ่ แนวขอบประตูที่ต่ำกว่าเดิม และแผงกระจกใหม่ คอพวงมาลัยที่ปรับเอียงได้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมที่สุดได้ และยังมีแผงแดชบอร์ดหน้าปัดเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้วแบบ Full digital พร้อมให้ข้อมูลที่ครบครัน และช่วยให้ผู้ขับขี่ดูหรือเลือกข้อมูลที่ต้องการได้อย่างสะดวก

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/6SE0mvRdjHgB5y1oj8nH.jpg

ยกระดับระบบความปลอดภัยเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ


การขับขี่มีความสะดวกสบายและปลอดภัยขึ้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ที่ทำงานได้จนถึงความเร็วที่ 0 กม./ชม. และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบดาวน์ฮิลล์ (Downhill Cruise Control) ที่สั่งงานเบรกล้อโดยอัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องใช้แรงเบรกเป็นพิเศษเพื่อรักษาความเร็วขณะขับลงทางลาดให้คงที่ ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronically controlled Brake System: EBS) ซึ่งเป็นระบบเบื้องต้นที่ทำงานร่วมกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยอื่นๆ

https://cf.autodeft2.pw/content/20230518/DgIysLdF4d5eyfJ3D5bO.jpg

“นอกจากตัวรถที่ให้การขนส่งที่ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัย และสะดวกสบายต่อผู้ขับขี่แล้ว การบำรุงรักษาตัวรถยังวอลโว่ ทรัคส์ ยังมีรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ยาวนานสูงสุดทุก 75,000 กม. หรือทุก 12 เดือน ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามลักษณะการใช้งาน และความหนักเบาในการใช้รถ และยังให้การรับประกันอะไหล่แท้ 2 ปีหากมีการเข้าการบริการที่ศูนย์บริการ ดังนั้นการลงทุนในรถบรรทุกยุโรป แบรนด์วอลโว่ ผู้ประกอบการจะสามารถใช้งานรถได้อย่างยาวนาน และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ” มร.มาร์ติน ซอมเมอร์ กล่าวทิ้งท้าย

ขับเคลื่อนโดย Blogger.