ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

หมอทรวงอก เผย ฝุ่น PM 2.5 ก่อให้เกิดมะเร็งปอด โดย ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย


 

ในปัจจุบัน ปัญหา PM 2.5 ส่งผลไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ แต่ยังแพร่ไปยังหลายๆ จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร โดยมลภาวะทางอากาศนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่าปัญหามลภาวะทางอากาศเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเสียชีวิตประชากรที่เสียชีวิตในโลก

ปัญหามลพิษทางอากาศที่พบบ่อยเป็นลักษณะแบบ Particulate Matter (PM) ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีทั้งของเหลวและของแข็ง ซึ่งเป็นโลหะพิษ (Toxic Compound) และสารประกอบไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon) โดยขนาดฝุ่นละอองที่มีขนาด 2.5 – 5 μm หรือ PM 2.5 นั้นจะสามารถลงไปจะสามารถลงไปจนถึงหลอดลมฝอย (Respiratory Bronchiole) และถุงลม (Alveoli) ได้ โดยซึ่งมักเกิดสาเหตุการเผาไหม้ในที่โล่งในทางเกษตรกรรม การเผาไหม้น้ำมันดิบ ไอเสียรถยนต์ดีเซล การเผาไหม้ในเตาเผาครัวเรือนฝุ่นเหล่านี้ จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการคัดจมูก แสบตา เจ็บคอ จาม จนไปถึงหลอดลมมีอาการอักเสบได้

https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20230405/2c73a382252fdf0ac876d9eb434bcaba8982bbc89326a86f499cc765babc21c0.jpg?itok=JbsgbUe_

ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางด้านโรคปอด โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่าผลกระทบของฝุ่นละอองขนาดเล็กต่อสุขภาพอนามัย PM 2.5 นั้น ส่งผลทำให้การต่อต้านอนุมูลอิสระลดลง ทำให้ความแข็งแรงของเซลล์ลดลง และทำให้การอักเสบของเนื้อเยื่อมากขึ้นและ นอกจากนี้ยังการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำงานผิดปกติ และ ยังก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบได้โดยเฉพาะในส่วนโรคระบบทางเดินหายใจ และ อีกทั้งยังส่งผลทำให้มีอัตราการเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้นในผู้ป่วยโรคหอบหืด (Asthma) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) ปอดติดเชื้อ (Pneumonia)

https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20230405/f4f338924c865662630f04d1c3a1443b3b570bebc8f0115c4e01e30085974d9c.jpg?itok=dlah4D1_

นอกจากนี้ฝุ่นละอองกับการเกิดโรคมะเร็ง ฝุ่น PM 2.5 มีความเป็นพิษต่อยีน (Genotoxic) โดยตรงทำให้สารพันธุกรรมเสียหาย (DNA Damage) โดยสัมพันธ์กับการก่อให้เกิดมะเร็งปอด ซึ่งคนทั่วไปที่ไม่สูบบุหรี่ แต่อยู่กับมลภาวะ PM 2.5 จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 1.4 เท่า โดยวิธีที่จะป้องกันตัวเราจากสภาวะนี้แนะนำให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อมีคำเตือนและอยู่ภายในบ้านหรือในอาคารให้มากขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้งจริงๆ ควรใส่หน้ากากสำหรับป้องกันฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งยังควรงดออกกำลังกายหรือออกแรงในที่ๆ มีฝุ่นมาก

https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20230405/6bfe527a91b077c9955eb28b54d903be5727f00f6227c35b32d956be23dbc35e.jpg?itok=YsHroYi5

และหากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจ แสบจมูก แสบคอ หายใจไม่สะดวก เหนื่อยง่ายหรือไอ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้ยังแนะนำการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 และปฏิบัติตามคำแนะนำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในช่วงเวลาที่เกิดปัญหามลพิษทางอากาศมาก ๆ สำหรับผู้ป่วยท่านใดที่ต้องการจะปรึกษาด้านการผ่าตัดมะเร็งปอดสามารถเข้ารับการปรึกษาได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “ผ่าตัดปอด” หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ lineofficial : @lungsurgeryth

ขับเคลื่อนโดย Blogger.