ติดต่อโฆษณา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ เชิญร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเชิญทดสอบรถ ติดต่อ Car4YouMag

Car4YouMag

Maserati เผยโฉม All-New Maserati GranTurismo ใหม่ พร้อมรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า


การกลับมาของสัญลักษณ์ที่แท้จริงของแบรนด์ Maserati (มาเซราติ) พร้อมการเผยโฉม Maserati GranTurismo (มาเซราติ กรันทูริสโม) ใหม่ นับเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ ที่เริ่มขึ้นจาก Maserati A6 1500 เมื่อ 75 ปีก่อน

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Trofeo%20(1).jpg

Maserati GranTurismo รถยนต์สไตล์คูเป้ เผสมผสานอย่างลงตัวของสมรรถนะแบบรถสปอร์ต เข้ากับความสะดวกสบายที่เหมาะกับการเดินทางไกล เปิดตัวสองเวอร์ชั่น คือ รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน อันทรงพลัง และสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ภายใต้ Concept ‘The Others Just Travel’ อีกทั้งยังเป็น มาเซราติ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Trofeo%20(3).jpg

งานดีไซน์ของ GranTurismo นำเสนอความสง่างามและสมรรถนะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถจดจำได้ในทันที เส้นสายดูเรียบง่ายแต่ชัดเจน ผสานประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีสุดในเซกเมนต์ สะท้อนตัวตนและความพิถีพิถันในการออกแบบ ขณะเดียวกันก็ยังรักษาสัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้ครบถ้วน ด้วยฝากระโปรงหน้าทรงยาว และตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 มาพร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซีที่มีโลโก้ตรีศูลติดตั้งอยู่

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Trofeo%20(2).jpg

Maserati GranTurismo ผ่านการพัฒนาจาก Maserati Innovation Lab และผลิตที่โรงงาน มิราฟิออรี เมืองตูริน ประเทศอิตาลี สะท้อนถึง ‘ความหรูหราและสมรรถนะแบบอิตาเลียน’ เป็นแนวคิดที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ มาเซราติ ทุกรุ่น

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Modena%20(4).jpg

ขุมพลังเบนซิน V6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เน็ททูโน (V6 Nettuno) ติดตั้งในสองรุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena) ทำได้ 490 แรงม้า และ โทรเฟโอ (Trofeo) ที่ผ่านการอัพเกรดเพิ่มกำลังเป็น 550 แรงม้า ส่วน กรันทูริสโม โฟลกอเร (GranTurismo Folgore) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้า 300-kw จำนวน 3 ตัว และใช้พื้นฐานจากเทคโนโลยีมอเตอร์ 800 โวลต์ ของรถแข่งฟอร์มูลาอี (Formula E)

แบตเตอรี่ความจุ 92.5 kWh สามารถปล่อยกำลังไฟฟ้า 560 kWh หรือ 760 แรงม้าลงสู่ล้อ รวมไปถึงนวัตกรรมอันทันสมัยในการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ ‘T-bone’ หรือติดตั้งไว้บริเวณโครงสร้างกลางรถ แทนที่การติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้ขับ ส่งผลดีต่อบาลานซ์และจุดศูนย์ถ่วงของรถ กับความสูง 1,353 มม. นับเป็นส่วนหนึ่งของคอนเซ็ปต์ ‘Zero Compromise’ ตามสไตล์ มาเซราติ

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Modena%20(2).jpg

สถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของรถรุ่นใหม่นี้ คือ ผลลัพธ์ของโปรเจ็กต์ด้านนวัตกรรมในการนำวัสดุที่เบาที่สุดมาใช้ เช่น การใช้อะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ร่วมกับโลหะเกรดสูง ซึ่งการทำแบบนี้จำเป็นต้องมีการปรับกระบวนการผลิต แลกกับการได้มาซึ่งวัสดุที่เบาและมีประสิทธิภาพชั้นเลิศ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ Atlantis High อันล้ำสมัย ภายใต้มาตรฐาน canFD ที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 0.002 วินาที 

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Folgore%20(1).jpg

มาพร้อมระบบ Cyber-Security ระดับ 5 และฟีเจอร์ Flash-over-the-air และศูนย์กลางในการควบคุมระบบ Vehicle Domain Control Module (VDCM) ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ ในการควบคุมระบบที่สำคัญทั้งหมดของรถยนต์แบบ 360 องศา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีทีสุดในทุกสถานการณ์ห้องโดยสารติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA), อินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด, หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์, นาฬิกาดิจิทัล และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น)

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Folgore%20(2).jpg

นอกจากนี้ ยังมอบประสบการณ์พิเศษแบบ ‘All-Round Sound Experience’ การันตีด้วยสุดยอดชุดเครื่องเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ มาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า อันเกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์สมบูรณ์แบบผ่านเครื่องระบบเสียง Sonus faber 3D ที่พัฒนาและออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาเลียน ติดตั้งลำโพง 14 ตำแหน่ง กำลังขับ 860 วัตต์ เป็นมาตรฐาน รวมถึงมีชุดลำโพง 19 ตำแหน่ง กำลังขับ 1,195 วัตต์ เป็นออปชั่น

https://www.autodeft.com/_uploads/images/GranTurismo%20Folgore%20(4).jpg

พิเศษช่วงเปิดตัว ลูกค้าสามารถจอง Maserati GranTurismo รุ่นพิเศษ ลิมิเต็ดอิดิชั่น ‘PrimaSerie 75th Anniversary’ ที่จะมาพร้อมเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี
 
ความรวดเร็วแบบสปอร์ต ความหรูหรา และความสะดวกสบาย อันเกิดจากความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากจุดเริ่มต้นของการพัฒนา Maserati GranTurismo ใหม่ แสดงให้เห็นว่า มาเซราติ สามารถลบล้างสมการที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้  โดยผสมผสานสมรรถนะแบบรถสปอร์ต กับความสะดวกสบายที่เหมาะสำหรับการขับทางไกล รวมถึงเครื่องยนต์สันดาปภายในอันทรงพลัง กับสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% เปรียบเสมือนมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ในเซกเมนต์

ขับเคลื่อนโดย Blogger.