Changan Automobile เผยโฉมรถรุ่นใหม่ – AVATAR E11 และ C385 ที่ Changan Auto Tech Ecosystem เป็นครั้งแรก
ฉางอัน ออโตโมบิล เปิดตัวรถยนต์สองรุ่น อย่างเป็นทางการ ได้แก่ AVATAR E11 รถ SUV ขนาดกลางที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทั้งหมด โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างฉางอัน ออโตโมบิล หัวเว่ย และ CATL อีกรุ่นคือ Changan C385 ซึ่งเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกันและถูกพัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มเครื่องยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่ Changan Auto Tech Ecosystem Conference 2021
ฉางอัน ออโตโมบิล หนึ่งในสี่ผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ด้วยประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์มากกว่า 37 ปี และรั้งตำแหน่งบริษัทที่มีความสามารถในการวิจัยและพัฒนาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมนำหน้าแบรนด์ต่างๆ ในจีนทั้งหมด ถึง 5 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 10 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมบิล มีฐานการผลิตกว่า 14 แห่งทั่วโลก รวมถึงเครือข่ายการขายและการบริการมากกว่า 8,700 สาขา ช่างเทคนิคด้านวิศวกรรมผู้ชำนาญการมากกว่า 10,000 คนใน 27 ประเทศ และบุคลากรมืออาชีพด้านบริการอีกกว่า 120,000 คนทั่วโลก นอกจากนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ยังจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาซึ่งมีความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นแตกต่างกัน ครอบคลุม 6 ประเทศใน 9 ภูมิภาค ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น และอิตาลี
หลังจากการพัฒนาเพียงครึ่งศตวรรษ อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนได้กลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคืออเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนกำลังมุ่งไปสู่การสร้างความทันสมัยผ่าน 4 เสาหลักหรือ “New Four Modernizations” ซึ่งประกอบไปด้วย ความอัจฉริยะ (Intelligence) การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electrification) การสร้างเครือข่าย (Networking) และการแบ่งปันใช้งาน (Sharing) อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน จึงกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งความสามารถในการแข่งขันก็กำลังทิ้งระยะห่างจากการขับเคลื่อนรถยนต์แบบเดิม โดยกำลังมุ่งไปสู่โลกยุคใหม่ที่เน้นการใช้เทคโนโลยี ดังนั้น ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีนจึงเร่งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่น่าตื่นตาและแปลกใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยแนวโน้มที่เป็นปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของจีนอย่าง ฉางอัน ออโตโมบิลจึงตั้งใจที่จะต่อยอดการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการส่งมอบสินค้าที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และมีราคาจับต้องได้ ให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
เผยโมเดลใหม่ล่าสุดสะท้อนจุดยืนผู้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะแห่งโลกยนตรกรรม
AVATAR E11 รถ SUV ขนาดกลางสุดล้ำรุ่นใหม่ระดับไฮเอนด์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างฉางอัน ออโตโมบิล หัวเว่ย และ CATL โดยรถยนต์รุ่นนี้จะใช้ Huawei HI (Huawei Inside) หรือระบบปฏิบัติการยานยนต์อัจฉริยะเต็มรูปแบบ และเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก CATL เป็นหลัก ในปัจจุบัน AVATAR E11 อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ รอบคันและจะเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้
เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมแพลตฟอร์มอัจฉริยะอันชาญฉลาด
Changan C385 เป็นโมเดลเชิงกลยุทธ์รุ่นแรกของ ฉางอัน ออโตโมบิล ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด โดยรถยนต์รุ่นนี้จะใช้ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติไร้คนขับ (Automated Valet Parking System) APA7.0 ซึ่งรถยนต์จะสามารถเข้าแถว ขับเคลื่อน และหาที่จอดเองโดยที่ไม่ต้องมีเจ้าของรถยนต์คอยติดตาม รูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากสไตล์รถแฮทช์แบ็ค ผสมผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและรูปทรงที่ดูสปอร์ต จึงเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
เผยแผนการลงทุนระดับโลก
ฉางอัน ออโตโมบิล แถลงเพิ่มเติมถึงแผนการลงทุน โดยจะเพิ่มอีก 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 825 พันล้านบาท) ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมภายในห้าปี โดยอยู่ภายใต้กลยุทธ์ “ยานยนต์ใหม่ + ระบบนิเวศใหม่ (New Auto + New Ecosystem)” การลงทุนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยี (Technology Ecosystem) และเร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ตลอดจนเพิ่มขีดจำกัดระดับความสามารถของเทคโนโลยีอัจฉริยะในด้านต่างๆ ภายในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และในขณะเดียวกันจะมีการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อพัฒนาและสร้างคอมมูนิตี้ที่เต็มไปด้วยทักษะและองค์ความรู้ทางด้านเทคนิค ทั้งนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล แถลงเพิ่มเติมว่า ภายในปี 2568 นี้ ตั้งเป้าจะสร้างยอดขายต่อปีทะยานสู่ 3 ล้านคัน โดยมีสัดส่วนของ xEV อยู่ที่ 35% และภายในปี 2573 ฉางอัน ออโตโมบิล จะขึ้นแท่นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำด้วยยอดขายมากกว่า 4.5 ล้านคัน ด้วย xEV โดยจะรวมถึงสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่ 60% และ 30% ตามลำดับ
ฉางอัน ออโตโมบิล มีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมชั้นสูง โดยนับตั้งแต่ปี 2560 บริษัทฯ ได้บรรลุและส่งมอบนวัตกรรมใหม่มากมาย ทั้งในแง่ของกลไลอัจฉริยะตลอดจนยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์พื้นฐาน “ยานยนต์ใหม่ + ระบบนิเวศใหม่ (New Auto + New Ecosystem)” ในส่วนของผลงานทางด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ฉางอันยึดมั่นหลัก Dubhe Intelligence Plan และ Shangri-La Plan โดยลงทุนกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 49.5 พันล้านบาท) เพื่อครอบครองเทคโนโลยีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อัจฉริยะในระดับต่ำกว่า 500 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้ มี 48 เทคโนโลยี ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศจีน
นอกจากนี้เทคโนโลยี APA 6.0 ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติไร้คนขับระบบแรก ที่ไม่จำเป็นต้องมีผู้ใช้งานคอยกำกับในระยะประชิด และสามารถขับเคลื่อนผ่านสมาร์ทโฟนแทน นอกจากนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ยังได้สร้างระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบบูรณาการ (Ultra-Integrated Electric Drive System) ที่ลดการใช้น้ำหนักได้ 10% เพิ่มอัตราการจ่ายพลังงานได้ถึง 37% และเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก 5%
ปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมบิล ได้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะมากกว่า 1.45 ล้านคัน จึงนับได้ว่าเป็นผู้ผลิตแถวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคมปีนี้ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฉางอัน ออโตโมบิล เติบโตแบบก้าวกระโดดอยู่ที่ 495% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในแง่ของผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวรถยนต์รุ่น PLUS และ UNI ซีรีส์ของฉางอันถือได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก นับว่าเป็นรุ่นยอดนิยมโดย 43% ของยอดขายรุ่น UNI เกิดจากการที่ผู้บริโภคเลือกซื้อรถยนต์จากฉางอัน ออโตโมบิลมากกว่าแบรนด์สากลชั้นนำ โดยในสามปีที่ผ่านมา คุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ของฉางอัน ออโตโมบิล เพิ่มขึ้นถึง 34% ซึ่งมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่องจนยกระดับความสามารถในการแข่งขันเทียบชั้นแบรนด์ระดับสากล
ปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมลบิล มีภาพลักษณ์ของผู้ผลิตและผู้ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงอย่างชัดเจน ล่าสุดตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ได้ขายรถยนต์ไปมากกว่า 1 ล้านคัน และด้วยความมุ่งมั่นที่จะขึ้นเป็นผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยระบบนิเวศของอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ ฉางอัน ออโตโมบิล จะไม่หยุดพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เพื่อให้ส่งมอบรถยนต์ที่ มีคุณภาพ และมีฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค