Aston Martin Bangkok นำแฟลกชิปโมเดล DBS Superleggera หรูหราและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ระเบิดความแรงบนถนนเมืองไทย
แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ฉลองการกลับสู่สังเวียนฟอร์มูลาวัน ด้วยการนำ Aston Martin DBS Superleggera (ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา) ยนตรกรรมในสายการผลิตที่แรงสุดของ แอสตัน มาร์ติน มาพิสูจน์สมรรถนะอันเหนือชั้น บนถนนในไทยเป็นครั้งแรก
ฉัตรชัย แก้วผ่องศรี, ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก, เผยว่า “แอสตัน มาร์ติน ‘ดีบีเอส’ เป็นยนตรกรรมที่ดีสุดในประวัติศาสตร์ของ แอสตัน มาร์ติน เคยถูกใช้เป็นรถคู่ใจ เจมส์ บอนด์ ในตอน ‘Casino Royale’ ปัจจุบัน ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ ถูกผลิตมาเพื่อสานต่อความแรง พร้อมตัวถังน้ำหนักเบา พละกำลังมหาศาล และความสง่างามตามแบบฉบับของ แอสตัน มาร์ติน”
หวนคืนสนามแข่ง ฟอร์มูลาวัน
แอสตัน มาร์ติน ก่อตั้งช่วงปี 1913 และนับเป็นแบรนด์ที่มีจิตวิญญาณของรถแข่งอยู่ในสายเลือด บันทึกประวัติศาสตร์ช่วงปี 1922 ในการแข่ง French Grand Prix ด้วยรถ Bamford & Martin Special กับสถิติโลกความเร็วสูงสุดบนสนามแข่ง Brooklands ในขณะนั้น และในฤดูกาลแข่ง ฟอร์มูลาวัน ปีนี้ แอสตัน มาร์ติน ก็หวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง นำทีมโดยนักแข่งชาวเยอรมัน ‘เซบาสเตียน เฟตเทล’ แชมป์โลกฟอร์มูลาวัน 4 สมัย
หรูหรา สง่างาม ผสานความดุดัน
แอสตัน มาร์ดิน ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ นับเป็นยนตรกรรมรุ่นสูงสุด หรือแฟล็กชิป โมเดล ในสายการผลิต หลอมรวมความสง่างามของเส้นสายอันพลิ้วไหว เข้ากับพละกำลังดุดันแบบสุดขั้ว โดยคำว่า ‘ซูเปอร์เลจเจรา’ (Superleggera) เป็นภาษาอิตาเลียน หรือ Superlight ในภาษาอังกฤษ แสดงถึงเทคนิคการผลิตตัวถังน้ำหนักเบาอันเป็นเอกลักษณ์ของสำนัก ‘Touring’ ผู้ผลิตรถยนต์อิตาเลียนระดับตำนาน
โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมผสานการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ มีความกว้างและบึกบึนกว่า แอสตัน มาร์ติน ทุกรุ่น แต่ก็ยังเบากว่ารุ่น DB11 ถึง 30 กิโลกรัม (เบาสุดถึง 70 กิโลกรัม เมื่อติดตั้งออปชั่นหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์และอื่นๆ ครบชุด) เด่นด้วยกระจังหน้า 6 เหลี่ยม เป็นเอกลักษณ์ ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมช่องระบายอากาศ ช่วยลดน้ำหนักและระบายความร้อนจากห้องเครื่องยนต์
ตัวถังด้านข้างเจาะช่องระบายอากาศซุ้มล้อหน้า ช่วยจำกัดแรงยกที่เกิดขึ้นด้านหน้า พร้อมจัดเรียงอากาศให้ไหลผ่านตัวถัง สู่สปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ Aeroblade IITM ทำงานร่วมกับดิฟฟิวเซอร์ 2 ชั้น สร้างแรงกดมหาศาลช่วงความเร็วสูง
จัดจ้าน..เร้าใจ…ที่สุดในประวัติศาสตร์
ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V12 ขนาด 5.2 ลิตร Twin Turbo 715 แรงม้า (bhp) แรงบิด 900 นิวตันเมตร สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แอสตัน มาร์ติน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมแพดเดิลชิฟท์ ของ ZF ติดตั้งอยู่ระหว่างล้อคู่หลัง ช่วยเพิ่มความสมดุล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.
อัตลักษณ์แห่งความประณีต พร้อมอิสระไร้ขอบเขต
ห้องโดยสารผ่านการออกแบบจากดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญของ แอสตัน มาร์ติน สะท้อนภาพลักษณ์อันหรูหรา ผสานรายละเอียดสุดประณีตเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มอัลคันทารา พร้อมแพดเดิลชิฟท์ก้านยาว ผู้ขับจึงไม่พลาดในทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบนำทางด้วยดาวเทียม แสดงข้อมูลผ่านจอทีเอฟที กว้าง 8 นิ้ว ผู้ขับสามารถสั่งการผ่านทัชแพด, เสียง หรือการเคลื่อนไหว ขณะที่เบาะหนังแท้เกรดดีที่สุด ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย พร้อมเครื่องเสียง Premium Audio ช่วยสร้างความรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง และหากลูกค้าต้องการ ก็สามารถกำหนดรายละเอียดต่างๆ ในห้องโดยสารได้อย่างอิสระ
เกาะหนึบทุกสภาพถนน กับช่วงล่างด้านหน้าดับเบิลวิชโบน ด้านหลังมัลติ-ลิงค์ พร้อมโช้กอัพปรับความหนืดอัตโนมัติ ADS (Adaptive Damping System) จานเบรกคาร์บอนเซรามิก หน้า 410 มิลลิเมตร หลัง 360 มิลลิเมตร จับคู่กับล้อแม็กฟอร์จขอบ 21 นิ้ว และยางพิเรลลี่ P Zero หน้า 265/35/21 หลัง 305/30/21 ที่พัฒนาเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ
แอสตัน มาร์ติน ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ ราคาเริ่มต้น 28.9 ล้านบาท มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง