Yamaha แถลงนโยบายปี 2564 เดินหน้าเต็มพิกัดรุกตลาดด้วย 5 รุ่นใหม่ ส่ง All New AEROX ประเดิมตลาดด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ Y-Connect
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ประกาศเดินเกมรุกตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยในปี 2564 อย่างเต็มพิกัด เสริมความแข็งแกร่งด้วยการเปิดตัวรถใหม่ 5 รุ่น เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้าและคุณภาพบริการหลังการขาย ตอกย้ำคุณภาพสินค้ารับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร พร้อมยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยี Y-Connect เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของตลาดปัจจุบัน
พร้อมเสริมกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ และเพิ่มเครือข่าย 3S ด้านการขาย, การบริการ และอะไหล่ ตั้งเป้าการขายที่ 253,000 คัน หวังขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5%
มร.เท็ตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของยามาฮ่าในปีที่ผ่านมาว่า“จากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส 2019 ในปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ มียอดจดทะเบียนปิดตัวเลขอยู่ที่ 1.52 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 12% โดยเป็นตัวเลขของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั้งสิ้น 240,000 คัน ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่เหนือกว่าภาพรวมของตลาด ทั้งยังสามารถขยับมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 15.8% ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นในทุกเซ็กเมนต์ของยามาฮ่า เป็นผลจากการเดินหน้านโยบายด้านการขายและการทำตลาดอย่างเข้มข้นนั่นเอง”
สำหรับ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ พลิกเกมสู้วิกฤติโควิด-19 ด้วยการปรับการผลิตและการขายโฟกัสไปที่รุ่นยอดนิยมอย่างแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด, เอ็นแม็กซ์, เอ็กซ์แม็กซ์ และฟินน์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค ทั้งยังช่วยลดสต๊อกให้กับผู้จำหน่าย และยังได้จัดอบรมการทำการตลาดแบบออนไลน์ให้กับผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มยอดขายให้ขยับขึ้นเป็นเท่าตัว รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างยอดขายได้ดีในภาวะวิกฤติ
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า“สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคม ธุรกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในรูปแบบการดำเนินชีวิตบริบทใหม่ หรือ New Normal ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง โดยยามาฮ่าได้ปรับแผนในการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือสังคมและบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการบริจาครถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มากกว่า 100 คันให้กับหน่วยงานราชการและโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้สู้ภัยโควิด-19”
“สำหรับในปี 2564 คาดการณ์ว่าภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 1.53 ล้านคัน โดยยามาฮ่าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 253,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา ขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5 % โดยชูกลยุทธ์หลักผ่านแบรนด์สโลแกน Revs Your Heart เร่งชีวิต ให้เร้าใจ พร้อมรุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย 4 กลยุทธ์หลักในปีนี้ คือ 1.) การเปิดตัวสินค้าใหม่ 5 รุ่น ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้เทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างโอกาสเติบโตในตลาดรถจักรยานยนต์ให้ได้มากยิ่งขึ้น 2.) มุ่งสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าด้วยรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 500 ซีซี 3.) ยกระดับและพัฒนาศูนย์บริการยามาฮ่าทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยมาตรฐานสูงขึ้น 4.) รุกการตลาดแบบออนไลน์เพื่อตอบสนองไลฟสไตล์ของผู้บริโภคที่ใช้การสื่อสารด้านออนไลน์เป็นทางเลือกหลักมากยิ่งขึ้น โดยหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งในกลุ่มรถออโตเมติกที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก ตั้งเป้าที่จะขยับสัดส่วนจาก 27.6 % เพิ่มขึ้นเป็น 28.5 % รวมถึงตลาดรถสปอร์ตที่ ยามาฮ่า มีความแข็งแกร่งโดยหวังที่เพิ่มสัดส่วนจาก 26.3% ไปเป็น 28.5% ปิดท้ายด้วยตลาดรถครอบครัวตั้งเป้าที่จะขยับสัดส่วนจาก 5.5% เพิ่มขึ้นเป็น 6.5% เสริมด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”
“นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจของเราในภาวะปัจจุบันได้มีอาชีพที่ได้รับความนิยมเกิดขึ้นอย่างหลากหลายโดยที่ผู้บริโภคได้นำรถคู่ใจไปใช้ในการประกอบอาชีพ เช่นอาชีพ Food Delivery Messenger รวมไปถึง Motorbike Taxi และอีกหลากลายอาชีพ ที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ในการประกอบอาชีพ ซึ่งยามาฮ่าก็ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์ไปประกอบอาชีพนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำแคมเปญ “เพราะความสุข…เร่งชีวิตให้เร้าใจ” ถ่ายทอดประสบการณ์ความสุขให้กับชาวมอเตอร์ไซค์ เพื่อสร้าง Emotion และมุมมองที่ดีให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ โดยโปรโมท Revs Your Heart ในมุมของประสบการณ์ลูกค้า ซึ่งจะได้รับชมกันเร็วๆนี้”
นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด กล่าวถึงความสำเร็จทั้งด้านการขายการตลาดรวมถึงงานบริการ เพื่อการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่เป้าหมายตามนโยบายประจำปี 2564 “ในด้านการขายและการตลาดนั้น ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ยามาฮ่าในประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ครบทุกเซ็กเมนต์ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วยการรับประกันรถจักรยานยนต์ทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดไม่เกิน 500 ซีซี ทุกรุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวอย่าง ”ยามาฮ่าฟินน์” ที่ยามาฮ่า กล้าให้การรับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาศูนย์บริการรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อการบริการที่เป็นเลิศ ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์และจะช่วยกระตุ้นยอดขายของยามาฮ่าให้มีการเติบโตได้มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ยามาฮ่าพร้อมเดินหน้ายกระดับการบริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ “Y-Connect” แอพพลิเคชั่นเพื่อชีวิตสมาร์ทสุดล้ำที่มีขึ้นครั้งแรกของประเทศไทยในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า โดยมีศักยภาพในการเชื่อมโยงระหว่างรถจักรยานยนต์ และผู้บริโภค ผ่านอุปกรณ์ CCU แสดงข้อมูลและตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยทุกการใช้งาน รวมถึงการแสดงผลลักษณะการขับขี่บนสมาร์ทโฟนด้วยโหมดฟังก์ชันต่างๆ อย่างครบครัน ช่วยให้หมดกังวลในการใช้งาน สะดวกสบาย และสนุกเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ใน All New YAMAHA AEROX”
ทั้งนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอขอบพระคุณท่านสื่อมวลชนทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา โดยบริษัทฯ จะยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีรวมทั้งกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทั่วประเทศ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา